
กรดอะมิโนทริปโตเฟน (L-Tryptophan) เป็นกรดอะมิโนที่จัดอยู่ในกลุ่มกรดอะมิโนจำเป็น ร่างกาย ไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น มีคุณสมบัติช่วยให้เราผ่อนคลายและนอนหลับได้ดี เพราะทริปโตเฟนป็นสารตั้งต้นให้แก่ “เมลาโทนิน” ฮอร์โมนแห่งการนอนหลับ และยังเป็นสารตั้งต้นให้กับ “เซโรโทนิน” ฮอร์โมนแห่งความสุข ที่ช่วยควบคุมอารมณ์ความรู้สึก เสริมสร้างคุณภาพการนอนหลับอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นยาแก้ปวดอีกด้วย
แหล่งอาหารสำคัญของกรดอะมิโนทริปโตเฟน พบมากในเนื้อสัตว์, สัตว์ปีก, อาหารทะเล, ไข่, นม, ธัญพืช โดยเฉพาะงา เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด รวมทั้งถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วอัลมอนด์ ผักและผลไม้ เช่น ผักเคล ผักโขม ปวยเล้ง กระหล่ำดอก กระหล่ำดาว บล็อกโคลี่ อินทผลัมแห้ง กีวี แคนตาลูป สับปะรด แตงโม กล้วย เป็นต้น
ประโยชน์ของกรดอะมิโนทริปโตเฟน
1. ช่วยให้นอนหลับสนิท
ทริปโตเฟนเป็นสารตั้งต้นของการผลิตฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกพาไปยังสมองเพื่อสร้างสารเซโรโทนิน โดยมีวิตามินบี 6 ไนอะซิน (วิตามินบี 3) และแมกนีเซียม เป็นส่วนประกอบของสารเซโรโทนิน รวมทั้งเซโรโทนินจะถูกต่อมไพนิล (pineal) ในสมองเปลี่ยนเป็นเมลาโทนิน (melatonin) ช่วยให้นอนหลับดีพักผ่อนได้สนิท และช่วยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับเวลานอนได้ดียิ่งขึ้น
2. ช่วยลดอาการซึมเศร้าและบรรเทาความเครียด
ทริปโตเฟนเป็นสารตั้งต้นของการผลิตฮอร์โมนเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทในระบบประสาทส่วนกลางที่ช่วยให้รู้สึกอารมณ์ดี ลดอาการซึมเศร้า ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายจากความเครียด และในทางการแพทย์ทริปโตเฟนยังถูกนำมาเป็นยารักษาอาการโรคซึมเศร้าได้ดีอีกด้วย
3. บรรเทาอาการปวดไมเกรน
ทริปโตเฟนเป็นสารตั้งต้นของการผลิตฮอร์โมนเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารต้านความเครียด ช่วยเรื่องบรรเทาอาการปวดศีรษะจากไมเกรนได้ เนื่องจากระดับเซโรโทนินต่ำเกินไปจะทำให้ไม่มีสมาธิ มีภาวะปวดศีรษะ เป็นไมเกรนได้
การนอนหลับพักผ่อนที่มีประสิทธิภาพและสุขภาพจิตที่ดีเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ทั้งยังช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันร่างกายด้วยเช่นกัน ดังนั้นการได้รับกรดอะมิโนทริปโตเฟนธรรมชาติจากอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ
แหล่งที่มา
พิมพ์เพ็ญ พรเฉลิมพงศ์ และนิธิยา รัตนาปนนท์. (2567). Tryptophan / ทริพโตเฟน. สืบค้นจาก https://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/1262/tryptophan