
ปัจจุบันเทรนการดูสุขภาพกำลังมาแรง และหลายท่านคงเคยได้ยินชื่อหรือรู้จักกับ “ต้นอ่อนข้าวสาลี (Wheatgrass)” ซูเปอร์ฟู้ดชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมและอุดมด้วยสารพฤกษเคมีที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถรับประทานด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบคั้นสดจากต้นอ่อนข้าวสาลี ผงสำเร็จรูปชงน้ำดื่ม สารสกัดบรรจุแคปซูลหรืออัดเม็ด โดยปริมาณสารอาหารในต้นอ่อนข้าวสาลี พบว่า ประกอบด้วยกรดอะมิโนมากกว่า 17 ชนิด และคลอโรฟิลล์ร้อยละ 70 นอกจากนั้นยังพบวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น เหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม
ประโยชน์ของน้ำต้นอ่อนข้าวสาลี มีดังนี้
1. ช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงในร่างกาย
น้ำคั้นจากต้นอ่อนข้าวสาลีอุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ ซึ่งเป็นสารมีสูตรโครงสร้างใกล้เคียงกับฮีม (Heme) สารที่ร่างกายนำไปใช้ในการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง จนได้ชื่อว่าเป็น “เลือดสีเขียว (Green Blood)” จากการศึกษาวิจัยฤทธิ์การเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงของต้นอ่อนข้าวสาลีในผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจาง พบว่า การรับประทานน้ำคั้นจากต้นอ่อนข้าวสาลี วันละ 30 - 100 มล. ติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี ช่วยเพิ่มปริมาณฮีโมโกลบินในเลือด ลดปริมาณการให้เม็ดเลือดแดงเข้มข้น (Pack Red Cells) และลดจำนวนครั้งในการถ่ายเลือด (Blood Transfusion) ได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งเด็กที่มีภาวะโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย และผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียชนิดเบต้า (Beta-thalassemia)
2. ป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจางจากการได้รับเคมีบำบัด
ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่รับประทานน้ำคั้นจากต้นอ่อนข้าวสาลี วันละ 60 มล. ตลอดระยะเวลาการได้รับเคมีบำบัด พบว่า ช่วยป้องการเกิดภาวะโลหิตจาง (Anemia) ได้ดี และสามารถเพิ่มปริมาณฮีโมโกลบินในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่มีผลต่อการตอบสนองการได้รับการรักษาจากเคมีบำบัดของผู้ป่วย นอกจากนี้จากการศึกษาในผู้ป่วยมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ ที่ดื่มน้ำคั้นจากต้นอ่อนข้าวสาลี วันละ 30 มล. ติดต่อกัน 6 เดือน พบว่า ช่วยเพิ่มปริมาณฮีโมโกลบิน และเกล็ดเลือด รวมทั้งเพิ่มภูมิต้านทานได้ดี
3. ป้องกันการเกิดอันตรายจากอนุมูลอิสระ
จากการศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในอาสาสมัครที่ได้รับสารก่ออนุมูลอิสระ BPA (Biphenol-A) ผ่านทางสิ่งแวดล้อม เมื่อให้ดื่มน้ำคั้นจากต้นอ่อนข้าวสาลี วันละ 100 มล. ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ พบว่า ปริมาณสาร BPA ในปัสสาวะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยแนวโน้มการลดลงของ BPA สัมพันธ์กับระยะเวลาที่ดื่มคั้นจากต้นอ่อนข้าวสาลี นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างต้นอ่อนข้าวสาลีกับสาหร่ายสไปรูริน่า พบว่าเพิ่มความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มปริมาณวิตามินซี เพิ่มการทำงานของเอนไซม์ Superoxide Dismutase และลดปริมาณ Malondialdehyde ในเลือดของอาสาสมัครได้ดีกว่าการรับประทานสาหร่าย สไปรูริน่า เมื่อรับประทานในขนาดที่เท่ากัน
4. บรรเทาอาการลำไส้อักเสบ
เมื่อผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบรับประทานน้ำต้นอ่อนข้าวสาลีวันละ 100 มล. ติดต่อกัน 1 เดือน พบว่าช่วยบรรเทาอาการโดยรวมของโรคให้ดีขึ้น ลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ และความถี่ของการถ่ายเป็นเลือดอย่างมีนัยสำคัญ
จะเห็นได้ว่า น้ำต้นอ่อนข้าวสาลีอุดมด้วยคุณประโยชน์ ทั้งในแง่ของการเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดงในผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจาง ป้องกันการเกิดอันตรายจากอนุมูลอิสระ และบรรเทาอาการลำไส้อักเสบ โดยไม่พบความเป็นพิษหรืออาการข้างเคียงใด ๆ ในขนาดรับประทานวันละ 30-100 มล. หรือแคปซูลขนาด 1,000 มก. ในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ - 1 ปี โดยควรเลือกต้นอ่อนข้าวสาลีแบบปลอดสารเคมีหรือออร์แกนิค และบริสุทธิ์ ไม่ผสมน้ำตาลหรือสารเคมีเจือปน ซึ่งการรับประทานนิยมนำมาคั้นดื่มสดโดยไม่ผ่านความร้อน หรือผ่านกระบวนการสกัดเย็น ทั้งนี้เพื่อการดูดซึมที่ดีที่สุดควรทานขณะท้องว่าง
ที่มา
กนกพร อะทะวงษา. (2555). น้ำวีทกราส น้ำคั้นจากต้นอ่อนข้าวสาลี. สำนักงานข้อมูลสมุนไพร
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, สืบค้นจาก https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/
Knowledge/ article/125/น้ำวีทกราส-น้ำคั้นจากต้นอ่อนข้าวสาลี/
Bar-Sela, G., Tsailic, M., Fried, G., & Goldberg, H. (2007). Wheat Grass Juice may improve
Hematological Toxicity Related to Chemotherapy in Breast Cancer Patients: A Pilot
Study. Nutr Cancer, 58(1), 43-8.
Ben-Arye, E., Goldin, E., Wengrower, D., Stamper, A., Kohn, R., & Berry, E. (2003). Wheat Grass
Juice in the Treatment of Active Distal Ulcerative Colitis: A Randomized Double-blind
Placebo-controlled Trial. Scand J Gastroenterol, 37(4), 444-9.
Dey, S. et al. (2006). Effect of Wheat grass Juice in supportive care of terminally ill cancer
patients- A tertiary cancer centre Experience from India. J of Clin Oncol, 18(1), 8634.
Marwaha. RK., Bansal, D., Kaur, S., & Trehan, A. (2004). Wheat grass juice reduces transfusion
requirement in patients with thalassemia major: A pilot study. Indian Pediatrics, 41,
716-20.
Mukhopadhyay, S., Basak, J., Kar, M., Mandal. S., & Mukhopadhyay, A. (2009). The Role of Iron
Chelation Activity of Wheat Grass Juice in Patients with Myelodysplastic Syndrome.
Journal of Clinical Oncology, 27(15), 7012.
Padalia, S., Drabu, S., Raheja, I., Gupta, A., & Dhamija, M. (2010). Multitude potential of
wheatgrass juice (Green Blood): An overview. Chron Young Sci, 1(2), 23-8.
Shyam, et al. (2007). Wheat grass supplementation decreases oxidative stress in healthy
subjects: a comparative study with spirulina. J Altern Complement Med, 13(8), 789-91.
Singh, K., Pannu, MS., Singh, P., & Singh, J. (2010). Effect of wheat grass tablets on the frequency
of blood transfusions in Thalassemia Major. Indian J Pediatr, 77(1), 90-1.
Yi, B., Kasai, H., Lee HS., Kang, Y., Park JY., & Yang, M. (2011). Inhibition by wheat sprout (Triticum
aestivum) juice of bisphenol A-induced oxidative stress in young women. Mutat Res,
18(724), 64-8.