อาหารที่ทำจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและนม (น้ำนม) สัตว์ ส่งเสริมให้เกิดมะเร็งในคนเราได้หลายสาเหตุ          

     1. เนื้อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและน้ำนมสัตว์เป็นอาหารเป็นอาหารที่ย่อยยากจะเน่าเสียตกค้างในลำไส้เป็นเวลานาน เนื่องจากระบบการย่อยอาหารของคนเราธรรมชาติออกแบบมาเพื่อการย่อยอาหารประเภทพืชผัก-ผลไม้ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์หรือน้ำนมสัตว์ในกระเพาะ กระเพาะอาหารของคนเราย่อยเนื้อสัตว์ได้เล็กน้อย เพราะคนเรามีน้ำกรดและน้ำย่อยจำนวนน้อยมาก เรามีน้ำกรดและน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของเรามีน้ำกรดอละน้ำย่อยจำนวนน้อยมาก เรามีน้ำกรดและน้ำย่อยในกระเพาะอาหารเพียง 1 ใน 20 หรือ 5% เมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์กินเนื้อทั้งหลาย           เมื่อเรารับประทานเนื้อสัตว์เลี้ยงลุกด้วยนมหรือน้ำนมสัตว์ กระเพาะอาหารของเราจะย่อยได้ไม่หมด เนื้อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหรือน้ำนมสัตว์ จะถูกนำมาย่อยต่อที่ลำไส้เล็กซึ่งมีสภาวะเป็นด่าง ทำให้การย่อยเกิดได้ยาก เพราะการย่อยเนื้อสัตว์และน้ำนมสัตว์ เอนไซม์จะทำการย่อยได้ดีในสภาวะที่เป็นกรด ทำให้เนื้อสัตว์และน้ำนมสัตว์ตกค้างอยู่ในลำไส้เล็กหลายวัน เกิดการเน่าเสียหมักหมม ถ้ามีการรับประทานจำนวนมากและต่อเนื่อง จะเกิดการเน่าจนย่อยได้ยากมาก และจับเป็นคราบแน่นอยู่ที่ผนังลำไส้เล็ก           ลำไส้เล็กของคนเราเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จะมีความยาวเฉลี่ยประมาณ 7 เมตร ซึ่งมีความยาวมากเมื่อเทียบกับความสูงของคนเราตลอดความยาวของลำไส้ จะมีคราบเน่าของเนื้อสัตว์และนมสัตว์เกาะอยู่ในปริมาณมาก ในบางคนมีคราบเน่าที่น้ำหนักรวมกันมากกว่า 1 กิโลกรัม คราบเน่าเสียเหล่านี้จะปล่อยทั้งสารพิษและสารก่อมะเร็ง เข้าสู่กระแสเลือดของเราตลอดเวลา นอกจากนั้นคราบเน่าเสียเหล่านี้ยังเป็นอาหารของแบคทีเรียตัวก่อโรคอีกด้วย           อาจสงสัยว่าน้ำนมสัตว์มีลักษณะเป็นของเหลวทำไมจึงย่อยยาก สาเหตุที่ย่อยยาก เพราะนมสัตว์โดยทั่วไปจะมีโปรตีนต่างจากนมของคนเรา (ยกเว้นนมแพะมีโปรตีนเหมือนกับนมของตนเรา) โปรตีนในนมของคนเราเป็นอัลบูมิน(albmin) ซึ่งมีโมเลกุลเล็กย่อยได้ง่าย แต่โปรตีนจากนมสัตว์เป็นเคซีน (casein) ซึ่งมีโมเลกุลใหญ่ย่อยได้ยากมาก           น้ำนมจากวัวนอกจากมีข้อเสียดังกล่าวข้างต้นแล้ว การให้แม่วัวมีระยะให้นมที่ยาวนานจะต้องมีการกระตุ้นด้วยฮอร์โมนอย่างต่อเนื่อง ทำให้นมวัวมีฮอร์โมนปนเปื้อนมาในปริมาณสูง ทำให้เกิดมะเร็งที่สัมพันธ์กับเพศได้ทั้งเพศหญิงและชาย ในเพศหญิงจะส่งเสริมให้เกิดมะเร็งเต้านม เพศชายจะส่งเสริมให้เกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก          

     2. สารพิษและสารก่อมะเร็งในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นชนิดเดียวกับคนเรา เนื่องจากคนเราอยู่ในตระกูลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายจึงเหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ เหมือนกันจนสามารถใช้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ เช่น หนู-กระต่าย-ลิง-หมู-วัว ทดลองฤทธิ์ของยาและผลข้างเคียงของยาแทนคนเราได้ โรคต่างๆ และมะเร็งทุกชนิดที่เกิดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ก็เป็นชนิดเดียวกันกับที่เกิดขึ้นในคนเรา สารพิษต่างๆสารก่อมะเร็งต่างๆที่ตกค้างในตัวของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด ก็สามารถก่อพิษและก่อมะเร็งในคนเราได้ เมื่อเรารับประทานเนื้อของมัน สารพิษหรือสารก่อมะเร็งเหล่านั้นก็จะเข้ามาสะสมหรือก่อโรคในตัวเราได้ทันที          

     3. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมฉลาดมาก เมื่อมันรู้ตัวว่าจะต้องถูกฆ่าก็จะเกิดความเครียดสูงมาก คนเราเมื่อเกิดความเครียดก็จะสร้างสารพิษก่อโรคต่างๆ นานารวมทั้งโรคมะเร็งด้วย สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดก็เช่นเดียวกัน เมื่อเกิดความเครียดก็ จะสร้างสารพิษและสารก่อมะเร็งเป็นจำนวนมมาก ยิ่งมีความเครียดสูงสุดจากการกลัวถูกฆ่า จะยิ่งก่อสารพิษและสารก่อมะเร็งได้สูงสุด จึงเป็นอันตรายอย่างยิ่งที่เราจะไปรับประทานเนื้อของมันหรือนมของมัน          

     4. สารเคมีที่อยู่ในขั้นตอนการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงลุกด้วยนม จะถ่ายทอดมาสู่คนเราโดยตรง ในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ ผู้เลี้ยงจะต้องพยายามให้สัตว์ปลอดจากโรค ก็จะใช้ยาเคมีเหล่านี้ก็จะเข้าสู่ร่างกายเราเมื่อเรารับประทานเนื้อหรือนมของมันเข้าไป การเลี้ยงหมู-วัว เพื่อขายเนื้อหรือนม ก็จะมีการใช้สารเร่งเนื้อแดง มีการใช้ฮอร์โมนเร่งให้โตเร็ว มีการกระตุ้นด้วยฮอร์โมนให้มีจำนวนน้ำนมมากและให้นมนาน สารเหล่านี้ก็จะผ่านเข้าสู่ร่างกายเราเมื่อเราไปรับประทานเนื้อหรือนมของมัน ซึ่งทำให้ก่อโรคต่างๆ และมะเร็งได้หลายชนิดในคนเรา

ข้อมูล : นายแพทย์ บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ หนังสือ พิชิตโรคร้ายโดยไม่ใช้ยา เล่ม3 : พิชิตมะเร็ง ฟื้นฟูไต ด้วยพลังธรรมชาติ